บ้านพักอาศัยฟาซาดป้องกันแสงตะแกรงเจาะรูลายแนวตั้ง
บ้านพักอาศัยฟาซาดป้องกันแสง ด้วยตะแกรงเจาะรูลายแนวตั้ง
ในยุคที่ความต้องการด้านดีไซน์และความเป็นส่วนตัวในบ้านพักอาศัยมีความสำคัญพอ ๆ กับฟังก์ชันการใช้งาน การเลือกใช้ “ฟาซาด” หรือแผงกันแดดด้านหน้าบ้านด้วย ตะแกรงเจาะรูแนวตั้ง จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแสงแดดแรงตลอดทั้งวัน การติดตั้งตะแกรงลายแนวตั้งจะช่วยกรองแสง ลดความร้อนเข้าสู่ภายในบ้าน พร้อมมอบรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สวยงาม และกลมกลืนกับสถาปัตยกรรมยุคใหม่
ฟาซาดลายแนวตั้ง ตอบโจทย์บ้านพักอาศัยอย่างไร?
- ช่วยลดแสงแดดโดยตรงเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้ภายในเย็นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอร์มากนัก
- เพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยยังคงให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ภายใน
- ออกแบบให้รับลมธรรมชาติได้ดี ไม่ปิดทึบเหมือนผนัง
- ให้ภาพลักษณ์ที่โมเดิร์น ด้วยดีไซน์เรียบหรู ลายแนวตั้งเหมาะกับงานบ้านพักสมัยใหม่
- สามารถเลือกความหนาและขนาดรูของตะแกรงให้เหมาะสมกับทิศทางแสงแดดของบ้านได้
วัสดุและการเลือกใช้ตะแกรงเจาะรู
ตะแกรงเจาะรูลายแนวตั้งที่ใช้ในฟาซาดบ้านพักอาศัยนิยมใช้วัสดุอย่างเหล็กหรืออลูมิเนียม ซึ่งสามารถทำสีอบพาวเดอร์โค้ตได้หลากหลายเฉดสี เพื่อให้เข้ากับโทนสีบ้าน โดยขนาดรูที่นิยมคือ รูแนวยาวประมาณ 10x50 mm, 20x60 mm หรือขนาดตามสั่ง โดยเลือกความหนาแผ่นที่แข็งแรงพอรับแรงลมและคงรูปได้ดี
การติดตั้งและดูแลรักษา
การติดตั้งตะแกรงเจาะรูในลักษณะฟาซาดควรมีโครงเหล็กเสริมเพื่อยึดแผ่นตะแกรงกับโครงสร้างอาคาร และควรเผื่อระยะเพื่อให้มีช่องว่างระบายอากาศ การดูแลรักษาทำได้ง่าย เพียงฉีดล้างฝุ่นตามฤดูกาล หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ไม่จำเป็นต้องดูแลมาก
สั่งผลิตและติดตั้งกับทีมงานมืออาชีพ
หากคุณกำลังมองหาตะแกรงเจาะรูคุณภาพสูง พร้อมทีมงานออกแบบและติดตั้งฟาซาดบ้านพักอาศัย บริษัท อะ สตีล ปราการ จำกัด พร้อมให้คำปรึกษาและบริการแบบครบวงจรตั้งแต่เลือกวัสดุจนถึงติดตั้งหน้างานจริง เรามีแบบตะแกรงให้เลือกหลากหลาย พร้อมบริการวัดหน้างานและผลิตตามสเปคเฉพาะของลูกค้า
การออกแบบฟาซาดให้เหมาะสมกับบ้านแต่ละประเภท
ฟาซาดไม่ใช่เพียงแค่แผงกันแดด แต่เป็นองค์ประกอบสถาปัตยกรรมที่สามารถกำหนดอารมณ์และภาพลักษณ์ของบ้านได้อย่างชัดเจน ซึ่งการออกแบบให้เหมาะสมต้องพิจารณาทั้งด้านฟังก์ชันและความสวยงาม ตัวอย่างเช่น:
- บ้านโมเดิร์น: เหมาะกับตะแกรงเจาะรูลายแนวตั้งขนาดยาว เช่น รู 10x100 mm หรือ 20x80 mm ที่ให้ลุคเรียบ เท่ และสมัยใหม่
- บ้านทรอปิคอล: ควรใช้ตะแกรงที่มีระยะรูพอประมาณ เพื่อให้มีแสงและลมผ่านได้ดี เช่น รู 20x60 mm พร้อมทำสีอบโทนอบอุ่นอย่างน้ำตาล ทองแดง หรือเขียวเข้ม
- บ้านสไตล์ลอฟต์: นิยมใช้ตะแกรงเหล็กสีดำด้าน หรือเทาเข้ม สร้างความรู้สึกแข็งแรง และเข้ากับโครงสร้างปูนเปลือยหรือเหล็กดิบ
เทคนิคการระบายน้ำและลมในฟาซาด
การออกแบบฟาซาดตะแกรงเจาะรูที่ดี ควรเผื่อช่องว่างด้านบน-ล่างเพื่อให้ลมสามารถไหลผ่านได้สะดวก และต้องวางแนวรูให้รับกับทิศทางลมเพื่อให้เกิดการไหลเวียนที่ดี นอกจากนี้ หากฟาซาดอยู่ในตำแหน่งที่มีฝนสาด ควรมีการออกแบบระยะยื่นเพื่อกันน้ำ หรือใช้วัสดุเคลือบกันสนิมระดับอุตสาหกรรมเพื่อยืดอายุการใช้งาน
การติดตั้งฟาซาดแบบลอยตัว (Floating Façade)
การติดตั้งฟาซาดให้ลอยออกจากตัวผนังบ้านเล็กน้อยจะช่วยให้สามารถซ่อนระบบสายไฟ แอร์ หรือท่อน้ำได้อย่างแนบเนียน และยังช่วยให้ผนังบ้านไม่ร้อนจากแสงแดดโดยตรง การเว้นระยะประมาณ 20-30 ซม. ระหว่างผนังกับแผ่นตะแกรงจึงเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม โดยต้องมีการยึดแผ่นกับโครงเหล็กที่แข็งแรง และป้องกันการสั่นไหวจากแรงลมด้วยจุดยึดที่เหมาะสม
กรณีศึกษาจริง: บ้านพักอาศัยย่านบางนา
โครงการบ้านพักอาศัยสไตล์โมเดิร์นย่านบางนา ได้เลือกใช้ฟาซาดตะแกรงเจาะรูอลูมิเนียมลายแนวตั้งขนาด 20x60 mm พร้อมอบสีขาวด้านติดตั้งที่ด้านหน้าของตัวบ้านสูง 2 ชั้น เพื่อปกป้องห้องนั่งเล่นจากแสงแดดช่วงบ่าย หลังติดตั้งพบว่าอุณหภูมิภายในลดลงกว่า 3°C และยังได้รับคำชมจากเพื่อนบ้านในเรื่องดีไซน์ที่ดูทันสมัยและสบายตา
ฟาซาดสำหรับอาคารสูงและโครงการอสังหาฯ
นอกจากบ้านพักอาศัยแล้ว ตะแกรงเจาะรูยังเหมาะสำหรับโครงการอาคารสูง เช่น คอนโด อาคารสำนักงาน ที่ต้องการดีไซน์ฟาซาดแบบโมดูลาร์ (Modular System) ซึ่งสามารถออกแบบให้ติดตั้งได้เป็นเซกเมนต์ พร้อมระบบยึดที่ปลอดภัย รองรับแรงลม และมีระบบกันนก กันฝุ่น ตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัยและความสวยงามในอาคารขนาดใหญ่
เลือกตะแกรงเจาะรูคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ
การเลือกผู้ผลิตและติดตั้งฟาซาดมีความสำคัญมาก เนื่องจากต้องอาศัยทั้งความแม่นยำในงานเจาะรู การตัดตามแบบ และทีมติดตั้งที่มีประสบการณ์ บริษัท อะ สตีล ปราการ จำกัด พร้อมให้บริการแบบ One-Stop Service ทั้งการให้คำปรึกษา ออกแบบ CAD การผลิตด้วยเครื่องจักรทันสมัย และติดตั้งหน้างานโดยทีมงานมืออาชีพ โดยรับประกันความพึงพอใจและความปลอดภัยในทุกขั้นตอน
ติดต่อสอบถามหรือขอใบเสนอราคา
โทร: 063-323-1703-5
LINE: @steelfactory
อีเมล: steelfactory@hotmail.com
เว็บไซต์: www.steelfactory.co.th